หนึ่งใน สนามฟุตบอล ที่น่าจะเป็นที่รู้จักมากที่สุดของประเทศไทย คงหนีไม่พ้น ราชมังคลากีฬาสถาน เพราะนี่ถือเป็นรังเหย้าของทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ต่อให้คุณจะไม่ใช่คนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล ก็น่าจะต้องรู้จักสถานที่แห่งนี้แน่นอน ซึ่งประวัติความเป็นมาของสนามแห่งนี้ บอกได้เลยว่า มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ประวัติความเป็นมาของ สนามฟุตบอล ราชมังคลากีฬาสถาน

     ราชมังคลากีฬาสถาน ตั้งอยู่บนพื้นที่ของ สนามกีฬาหัวหมาก ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นก่อสร้างในช่วงเดือนกันยายน ของปีพุทธศักราช 2531 ก่อนจะมีการเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ในช่วงปีพุทธศักราช 2541 ซึ่งเป็นการใช้จัดแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งหลังจากนั้นก็ปรับปรุงเพิ่มเติมอีกหลายต่อหลายครั้ง เพื่อใช้สำหรับการจัดแข่งขันฟุตบอล ยามที่ ทีมชาติไทย ต้องลงสนาม นั่นทำให้ ราชมังคลากีฬาสถาน ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน สนามฟุตบอล ที่ดีที่สุด ณ ช่วงเวลานั้น เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วีไอพี บ็อกซ์ , ห้องประชุม , ห้องแถลงข่าว , ที่ทำการกีฬา รวมถึง ห้องพักนักกีฬา ปัจจุบัน ราชมังคลากีฬาสถาน อยู่ภายใต้ความดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีทัพช้างศึก ทีมชาติไทย เป็นผู้ใช้งาน สามารถจุแฟนบอลได้ราว 80,000 คน หรือ 51,522 ที่นั่ง ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ใหญ่เป็นอันดับที่ 17 ของทวีปเอเชีย และ ใหญ่เป็นอันดับที่ 55 ของโลก

ราชมังคลากีฬาสถาน สนามฟุตบอล ที่ใช้งบก่อสร้างแตะพันล้านบาท

     อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น ว่า ราชมังคลากีฬา เป็น สนามฟุตบอล ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย แถมยังถูกปรับปรุงเพิ่มเติมอีกหลายต่อหลายครั้ง จนมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นั่นทำให้ภาครัฐบาล ใช้งบประมาณในก่อสร้างรวมทั้งหมดแตะหลักพันล้านบาทเลยทีเดียว แบ่งเป็นการก่อสร้างในช่วงแรก ที่ใช้งบประมาณ 630 ล้านบาท ตามมาด้วยการต่อเติมระบบไฟส่องสว่าง , ระบบเครื่องเสียง , เก้าอี้อัฒจันทร์แบบพับได้ และ ราวบันไดกันตก ที่ใช้งบประมาณ 367 ล้านบาท และปิดท้ายที่การติดตั้งกำแพงรอบอัฒจันทร์ , การจัดทำที่นั่งวีไอพี บ็อกซ์ , การจัดทำที่นั่งส่วนประธาน , การตกแต่งภายใน และ การทาสีใหม่ทั้งหมด ที่ใช้งบประมาณราว 8 ล้านบาท รวมแล้ว ราชมังคลากีฬา ใช้งบประมาณในก่อสร้างสูงถึง 1,005 ล้านบาท เลยทีเดียว ถือเป็น สนามฟุตบอล ที่มีการใช้งบประมาณในการก่อสร้างที่สุดในประวัติศาสตร์