สนามกีฬาศุภชลาศัย สนามฟุตบอล แห่งชาติที่ต้องแลกด้วยวังอันงดงาม

ศุภชลาศัย สนามฟุตบอล แห่งชาติที่ต้องแลกด้วยวังอันงดงาม

       นับตั้งแต่สนามฟุตบอลและสนามกีฬาแห่งชาติ ชื่อว่า สนามศุภชลาศัย ได้เกิดขึ้น ก็ได้กลายเป็นสถานที่ในการแข่งขันกีฬามาหลายระดับทั้งมีโอกาสในการใช้เพื่อการแข่งขันระดับอาเซียนหรือระดับลีกระดับประเทศของไทยก็ล้วนผ่านมาให้สนามนี้ได้รับใช้แทบทั้งสิ้น จึงไม่แปลกใจว่าทำไม สนามศุภชลาศัย แห่งนี้ จะได้รับวามสนใจและการดูแลเอาในใส่จากรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัยแต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้อดีตที่ต้องแลกมาก่อนที่จะกลายมาเป็น สนามฟุตบอล และสนามกีฬาแห่งชาติที่สวยงามแบบนี้ ไปเปิดประวัติกันว่าสนามแห่งนี้มีความเป็นมาอย่างไรในบทความนี้กัน

ประวัติของ สนามฟุตบอล ศุภลาศัย และความเกี่ยวโยงกับพระราชวังวินด์เซอร์

       เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2475 สมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม โดยคณะราษฎร ทำให้มีผลกระทบต่อราชวงศ์ไทยอย่างมาก และหนึ่งในแนวคิดของอำนาจใหม่อย่างคณะราษฏรในขณะนั้น คือการหาสถานที่ในการสร้างกรีฑาสถานแห่งชาติสักแห่ง ซึ่งหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติ ตามแนวคิดของหลวงศุภลาศัย หรือบุง ศุภชลาศัย อธิบดีกรมพละศึกษาและนายทหารเรืออาวุโสสุดในคณะราษฎรในตอนนั้น จึงผุดแนวคิดการก่อสร้าง สนามฟุตบอล บริเวณวังปทุมวันหรือที่รู้จักอย่างดีทั้งชาวไทยและต่างชาติว่าเป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังวินด์เซอร์ ด้วยสภาพพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเหมาะกับการสร้างสนามกีฬาขนาดใหญ่ จึงดำเนินการทุบพระราวังวินด์เซอร์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ พระราชโอรสในรักาลที่ 5 ทิ้งไป จากนั้นได้ดำเนินการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติขึ้นในปี 2478 และเรียกนามสนามแห่งนั้นว่าสนามกรีฑาสถานก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็นสนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่งชาติ ซึ่งนิยมเรียกชื่อสั้นๆ ว่า สนาม ศุภชลาศัย หรือสนามกีฬาแห่งชาติ

สภาพปัจจุบันของสนามฟุตบอลแห่งชาตินามว่า ศุภชลาศัย

       ปัจจุบันสนามกีฬาแห่งชาติแห่งนี้สามารถจุคนได้ถึง 19,793 คน ได้เป็นสถานที่ในการออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป และมีโอกาสได้ใช้เป็นสนามฟุตบอลในการแข่งขันกีฬาระดับชาติและระดับอาเซียนอยู่หลายครั้ง เช่น กีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 5 ครั้งที่ 6 และครั้งที่ 8 ในปี พ.ศ.2509, ปี 2513, และปี 2521 ตามลำดับ รวมทั้งเป็น สนามฟุตบอล ที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ และควีนคัพ หรืออีกหลายๆ รายการก็มีโอกาสแวะเวียนมาใช้สนาม ศุภลาศัยแห่งนี้

       แม้ว่าวันเวลาจะผ่านมายาวนานแล้ว แต่สนามฟุตบอลและสนามกีฬาแห่งชาติที่ชื่อว่าสนามศุภชลาศัย ยังคงยืนหยัดให้บริการผู้คนและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งออกกำลังกาย ใช้เป็นศูนย์นันทนาการ ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตสนามกีฬาแห่งชาติแห่งนี้จะเป็นสนามกีฬาระดับโลก และช่วยเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศไทยต่อสายตาของชาวต่างชาติได้อย่างแน่นอน

 

 

สมัครบาคาร่า888