เอสซีจี สเตเดี้ยม รังเหย้าของทัพกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

สนามฟุตบอล เอสซีจี สเตเดี้ยม รังเหย้าของทัพกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

พลพรรคกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวทีโตโยต้า ไทยลีก ถือเป็นอีกหนึ่งสโมสรฟุตบอลของเมืองไทย ที่มีแฟนบอลติดตามเป็นจำนวนมาก แม้ว่าผลงานในระยะหลังของพวกเขา จะไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่หนึ่งสิ่งที่สามารถดึงดูดแฟนบอลให้ติดตามได้อย่างเหนียวแน่น นั่นก็คือ สนามฟุตบอล เอสซีจี สเตเดี้ยม นั่นเอง และวันนี้เราจะขอพาแฟนทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับ สนามฟุตบอล แห่งนี้ กันให้มากยิ่งขึ้น

ประวัติความเป็นมาของ สนามฟุตบอล เอสซีจี สเตเดี้ยม

สนามฟุตบอล เอสซีจี สเตเดี้ยม ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของเมืองทองธานี บริเวณด้านหลังอาคารชาเลนเจอร์ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย เริ่มต้นก่อสร้าง และเปิดใช้งานในช่วงปีพุทธศักราช 2541 ซึ่งในระยะแรก ถูกใช้ชื่อว่า ธันเดอร์โดม สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ซึ่งในระยะแรกมีความจุเพียงแค่ 13,000 ที่นั่งเท่านั้น ก่อนที่จะ ทัพกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเข้ามาใช้พื้นที่สนาม ในปีพุทธศักราช 2550 พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สนามฟุตบอล ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่วงการฟุตบอลกำลังเริ่มก่อตั้งลีกอาชีพ และ ทัพกิเลนผยอง ก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลภายในระยะอันรวดเร็ว ไล่ตั้งแต่การคว้าแชมป์ระดับดิวิชั่น 2 ในปีพุทธศักราช 2550 , การคว้าแชมป์ระดับดิวิชั่น 1 ในปีพุทธศักราช 2551 และการคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ในปีพุทธศักราช 2552 ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม จึงเริ่มกลายเป็น สนามฟุตบอลไทยลีก ที่เป็นที่รู้จักของแฟนบอล ไปพร้อมๆ กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนจะมีการเปลี่ยนชื่อเป็น ยามาฮ่า สเตเดี้ยม ตามชื่อของสนับสนุนหลักของสโมสร ณ เวลานั้น มีการปรับปรุงต่อเติมอัฒจันทร์ทั้ง 3 ด้าน จนสามารถจุแฟนบอลได้ 17,500 ที่นั่ง รวมถึงใช้หญ้าสายพันธ์ พาสพาลัม ซึ่งเป็นหญ้าสายพันธ์ดี ที่ใช้สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโดยเฉพาะ ก่อนที่ในปีพุทธศักราช 2555 จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น เอสซีจี สเตเดี้ยม ตามชื่อของผู้สนับสนุนหลัก และใช้ชื่อดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง เอสซีจี สเตเดี้ยม ถือเป็น สนามฟุตบอลไทย เพียงแค่ไม่กี่แห่ง ที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นผ่านกลางสนาม แถมยังผ่านมาตรฐานของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี อีกด้วย

ความน่าสนใจของ สนามฟุตบอล เอสซีจี สเตเดี้ยม

scg-stadium-3

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น ว่า สนามฟุตบอล เอสซีจี สเตเดี้ยม ถือเป็น สนามฟุตบอลไทย เพียงแค่ไม่กี่สนาม ที่ผ่านมาตรฐานของสมาพันธ์เอเชีย หรือ เอเอฟซี ดังนั้นสนามแห่งนี้ จึงมีความพร้อม และสมบูรณ์แบบแทบจะครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้องวีไอพี บ็อกซ์ สำหรับสมาชิกของสโมสร รวมถึงแขกระดับวีไอพี , พื้นที่พักสำหรับผู้สื่อข่าว , รวมถึงห้องสำหรับการแถลงข่าว ซึ่งนอกจากจะใช้สำหรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แล้ว เอสซีจี สเตเดี้ยม ยังถูกใช้สำหรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติไทย , จัดการแสดง และ จัดคอนเสิร์ต หลายต่อครั้ง ภายในอนาคตอันใกล้นี้ ทางบอร์ดบริหารของสโมสร ยังมีแผนที่จะปรับปรุงความจุของ เอสซีจี สเตเดี้ยม ให้สามารจุแฟนบอลได้ 25,000 ที่นั่ง และ 35,000 ที่นั่ง เพื่อรองรับแฟนบอลที่จะเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าอาจจะต้องใช้งบประมาณที่สูงถึง 500-700 ล้านบาทก็ตาม และถ้าหากแผนการปรับปรุงความจุของ เอสซีจี สเตเดี้ยม สำเร็จเมื่อไร สนามฟุตบอล แห่งนี้ ก็จะกลายเป็น สนามฟุตบอลไทยลีก ที่สามารถจุแฟนบอลได้มากที่สุดในทันที แถมในอนาคตอันใกล้ การเดินทางมายัง เอสซีจี สเตเดี้ยม ก็จะสะดวกสบาย ก็ง่ายดายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งเป็นโครงการส่วนต่อขยายของช่วงศรีรัช-เมืองทองธานี โดยจะใช้ชื่อว่า สถานีริมทะเลสาบเมืองทองธานี (MT-02)

scg-stadium

ต้องยอมรับเลยว่า สนามฟุตบอล เอสซีจี สเตเดี้ยม ถือเป็นอีกหนึ่ง สนามฟุตบอล ของประเทศไทย ที่มีความยิ่งใหญ่ และเหมาะสมกับการเป็นสนามเหย้าของทัพกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นอย่างมาก นับเป็นอีกหนึ่งสังเวียนที่มีความเก่าแก่ และถูกใช้ในการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญมาแล้วมากมาย ซึ่งถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในแฟนพันธ์แท้ของวงการฟุตบอลไทย แล้วล่ะก็ สนามฟุตบอล เอสซีจี สเตเดี้ยม ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่คุณไม่พลาดอย่างเด็ดขาด