10 สนามแข่งรถวิบากในไทย สำหรับนักขี่มอเตอร์ไซค์ทักษะสูง
10 สนามแข่งรถวิบากในไทย เป็นสนามที่ถูกออกแบบเพื่อรองรับการแข่งขันมอเตอร์ไซค์รูปแบบใหม่ที่ต้องอาศัยนักแข่งที่มีทักษะสูง ผ่านรูปแบบของสนามแข่งขั้นที่มีกายภาพของพื้นที่สนามสูงต่ำ พร้อมด้วยอุปสรรคประเภทต่างๆ มากมาย ซึ่งเรียกการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ว่าการ “แข่งรถวิบาก” อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีความพยายามจัดการแข่งขันรถยนต์วิบากบน สนามแข่งรถไทย เช่นกัน แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับรถจักยานยนต์ วันนี้เราจะมารู้จักการแข่งรถวิบากประเภทมอเตอร์ไซต์พร้อมกับ 10 สนามในไทยกันว่ามีที่ไหนบ้าง
10 สนามแข่งรถวิบากในไทย 1 ในรูปแบบสนามการแข่งขัน
10 สนามแข่งรถวิบากในไทย 1 ในรูปแบบสนามการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ หมายความว่าการแข่งขันมอเตอร์ไซต์นั้นปัจจุบันเกิดได้หลากหลายรูปแบบในหลากหลาย สนามแข่งรถไทย วันนี้เรามาทำความรู้จักกันว่า “การแข่งขันมอเตอร์ไซค์” รูปแบบต่างๆ กัน เพื่อให้ต่อไปนี้ดูการแข่งขันรถวิบากจะได้เข้าใจและสนุกไปกับเกม
ประเภทของการแข่งขันรถวิบากใน สนามแข่งรถไทย
สำหรับการแข่งขันในประเทศผ่าน 10 สนามแข่งรถวิบากในไทย จะมีความแตกต่างไปจากการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่ใช้เพียงความเร็วอย่างเดียวที่เรียกว่า “โรดเรนซิ่ง” เพราะการแข่งรถวิบากนั้นเป็นการแข่งขันที่เอาชนะอุปสรรคประเภทต่างๆ ที่แต่ละสนามทำขึ้น ดังนั้น การแข่งรถวิบากจึงแบ่งรูปแบบการแข่งขันอีกเป็นดังนี้
- Dakar Rally เป็นการแข่งขันประเภทแรลลี่มีระยะทางในการขับขี่ที่ไกลและยาวนานเส้นทางเต็มไปด้วยอุปสรรคต่างๆ มากมายต้องอาศัยทักษะและความอดทนสูง โดยจะทำการแข่งขันในพื้นที่ทะเลทรายซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นหินกรวด หน้าผาโดยใช้มอเตอร์ไซค์ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 450 CC ไป
- MXGP/MX2 เป็นรูปแบบที่เรียกว่า “โมโตครอส” ที่ผู้แข่งขันต้องบุกตะลุยทุกอย่างรวมถึงอาจจะมีขึ้นที่สูงลงที่ต่ำมีทั้งขรุขระมีสิ่งกีดขวาง เพื่อเป็นการสร้างความยากลำบากและเพิ่มความโหด ผู้ขับขี่จะมีการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์โดยทำการตัดไฟหน้าและไฟท้ายออกเพื่อลดน้ำหนักของพาหนะและควบคุมรถได้ง่ายขึ้น คล่องแคล่วในการขับขี่และใช้ยางล้อแบบหนามเพื่อใช้กับทุกสภาพถนน
- Enduro เป็นการแข่งขันที่ใกล้เคียงกับมอเตอร์ครอสแต่มีระยะทางที่ไกลกว่า มอเตอร์ไซต์จะใช้เครื่องที่มีกำลังรอบต่ำเพื่อที่จะได้สามารถทำให้วิ่งด้วยความเร็วที่สูงกว่า และวิ่งในระยะที่ไกล
- Trial Bike การแข่งขันมอเตอร์ไซต์วิบากที่ดุเดือดแบบไม่มีเบาะนั่งซึ่งทำให้รถมันมีน้ำหนักเบาและมีการปรับแต่งเครื่องยนต์ไม่ให้แรงมากจนเกินไป เน้นการทรงตัวและควบคุมทิศทางผ่านสิ่งกีดขวางสูงต่ำซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ทักษะเป็นอย่างมาก
ทั้ง 4 รูปแบบคือการแข่งขันที่ถูกจัดขึ้นใน 10 สนามแข่งรถวิบากในไทย นั่นเอง
สนามแข่งรถวิบากในประเทศไทย
สำหรับ สนามแข่งรถไทย ที่จัดให้มีการแข่งมอเตอร์ไซค์วิบากประกอบไปด้วย 10 สนามแข่งรถวิบากในไทย ดังต่อไปนี้
- สนามไทยแลนด์เซอร์กิต หรือนครชัยศรี มอเตอร์สปอร์ต คอมแพล็กซ์ จังหวัดนครปฐม เป็นสนามแข่งรถนานาชาติได้จัดรายการแข่งขันระดับประเทศและระดับภูมิภาคมาแล้วหลายรายการมีเนื้อที่รวมทั้งสิ้น 30 ไร่เปิดดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี 2523 เป็นต้นมา
- สนามพีระเซอร์กิต พัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสนามแข่งขันถยนต์และรถจักรานยนต์ทุกรูปแบบรวมถึงรถโกคาร์ทอีกด้วย
- สนามแข่งรถฟาร์แกะ จังหวัดเชียงใหม่
- สนามแข่งรถแก้วไทรเลิศเซอร์กิต จังหวัดปราณบุรี
- สนามแข่งรถวังชมพู จังหวัดเพชรบูรณ์
- สนามแข่งรถดอนลังกา จังหวัดสกลนคร
- สนามแข่งรถขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
- สนามแข่งรถระนองซุปเปอร์ครอส จังหวัดระนอง
- สนามแข่งรถทองดีโมโตครอส จังหวัดน่าน
- สนามแข่งรถคลอง 5 จังหวัดปทุมธานี
ทั้งหมดคือ 10 สนามแข่งรถวิบากในไทย ซึ่งส่วนใหญ่มักถูกสร้างขึ้นในรูปแบบชั่วคราว เพราะการแข่งขันในลักษณะนี้ไม่ใช่การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ที่เน้นแต่ความเร็วของเครื่องยนต์เท่านั้นแต่ต้องอาศัยทักษะ และความอดทนพร้อมทางการอ่านทางออกของอุปสรรคสิ่งกีดขวางต่างๆ เพื่อให้ผ่านพื้นที่และเส้นทางในแต่ละช่วงของการแข่งขันไปให้ได้อีกด้วย
การแข่งขันที่นอกจากอาศัยความเร็วแล้วยังต้องมีสกิลชั้นสูง
การแข่งขันใน 10 สนามแข่งรถวิบากในไทย ที่ถือว่าเป็นรายการแข่งขันที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร้าและความเร้าใจรวมถึงการดูวิธีการแก้ปัญหาเพื่อผ่านอุปสรรคต่างๆ ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนอีกด้วย